The Happiness of Fish * Villa Mahabhirom

Artist’s Journal : Mahabhirom CNX

ปลายปีที่แล้วไปเชียงใหม่ช่วงหนาวสบายพอดีค่ะ ตอนเช้า 11c เย็นทะลุสถิติเลย

สี่หนุ่มวิลล่ามหาภิรมย์ ชวนเราไปพักที่วิลล่าโซนเปิดใหม่ชื่อว่า Villa Artist

ใต้ถุนวิลล่าอาร์ตติส มีพื้นที่ให้นั่งเล่นทำงาน

 

วิลล่าอาร์ตติส ประกอบด้วยเรือนไทยสองหลัง มีสระว่ายน้ำตรงกลาง ใต้ถุนเรือนนั่งทำงานสบายมาก ผนังหัวเตียงสีเหลืองสดใส อาร์ตติสพลอยเลยหอบงานไปทำ และ Pir หนึ่งในสี่หนุ่มมหาภิรมย์ซึ่งเป็นช่างภาพมากฝีมือชวนให้เราเอาคอลเลคชั่นกระเบื้องใหม่มาถ่ายรูปด้วย ! โอย สนุกเลยสิคะ ในฐานะคนออกแบบ ก็อยากเห็นผลงานของตนจัดวางใช้สอยได้จริงในชีวิตประจำวัน หนุ่มๆช่วยกันยกย้ายกี๋ หรือม้านั่งแบบจีนประยุกต์ มีฝาปิดเปิดใส่ของได้ หนึ่งในหลายชิ้นงานในคอลเลคชั่น The Happiness of Fish ที่เราออกแบบให้ Asiatides Paris คอลเลคชั่นที่ 2 กี๋ หรือม้านั่งนี้เป็นผลิตภัณฑ์ชิ้นใหญ่สุดในคอลเลคชั่นเลยค่ะ มีให้เลือกสองสี คือไวท์แอนด์บลู และสีเมลทัลลิกออกทองด้าน วางในบ้านก็ได้ ชานเรือน ระเบียง ก็ดี หรือจะวางในสวน เราลองนำมาจัดวางที่บริเวณสระว่ายน้ำของวิลล่ามหาภิรมย์กันด้วยค่ะ ซึ่งเป็นบริเวณที่ทางโรงแรมให้แขกรับ breakfast

 

นอกจากนี้เราก็ยกย้ายไปลองจัดวางตามมุมสวยใต้ถุนเรือนไทยหลังต่างๆในวิลล่ามหาภิรมย์กันเป็นที่สนุกสนาน

คุณณุ หนึ่งในผู้ก่อตั้งวิลล่ามหาภิรมย์เป็นคนรักและสงวนรักษาบ้านไทยแบบดั้งเดิม เขาออกเสาะหาเรือนไทยสภาพงามจากทั่วภาคกลาง และนำมาประกอบใหม่ใต้ร่มไม้ใหญ่ภายในอาณาเขตวิลล่ามหาภิรมย์ในซอยวัดอุโมงค์ กว่าโรงแรมนี้จะเสร็จสมบูรณ์ก็กินเวลาเกือบเจ็ดปี แต่ใครเข้ามาชมแล้วจะเข้าใจว่าทำไมใช้เวลานาน เพราะการประกอบจัดวางประณีตทุกจุด โดยได้ศิลปินเพื่อนรัก ประติมากรชื่อดังที่สี่หนุ่มรักและนับถือ-พี่ทองมา มาช่วยให้คำปรึกษา

คุณณุไม่เจาะหรือทำลายไม้เดิมของตัวเรือนเลย จำลองมาไว้ตามแบบการใช้งานออริจินัลจริงๆ ดังนั้นเราจึงได้อยู่เรือนไทยของแท้ ส่วนห้องน้ำห้องอาบน้ำแยกมาจากห้องนอนที่ต้องก้าวข้ามธรณีประตูออกมา บางคนอาจจะไม่ชิน แต่เรามาอยู่สามรอบแล้ว ทำให้คุ้นเคยกับวิถีการอยู่เรือนไม้แบบนี้ อ้อ นอนคนเดียวด้วยนะคะทั้งสามรอบ นอนหลับสบายมาก มีแต่คนถามว่านอนเรือนไทยไม่กลัวเหรอ ครั้งแรกเลยยอมรับว่าไม่ชินค่ะ เพราะไม้สีเข้มฝาประกนล้อมรอบ หน้าต่างเรือนไทยจะแคบหน่อย แสงเข้าไม่ได้เต็มที่เหมือนกระจกสมัยใหม่ ทำให้มีความสลัวในเรือน คนสมัยก่อนน่าจะออกมานั่งเล่นนอกชาน เวลาเข้าห้องก็คือเข้านอนเลย เรือนไทยที่วิลล่ามหาภิรมย์ก็เป็นเช่นนั้นค่ะ เขาจึงจัดพื้นที่นอกชาน ใต้ถุนเรือน ไว้ให้นั่งเล่นอย่างสบายลมโกรก

ใต้ถุนเรือนไทยแต่ละหลังยังมีแสงธรรมชาติที่สวยงามแตกต่างกันไป

ยามค่ำคืนที่วิลล่ามหาภิรมย์ก็สวยโรแมนติคไปอีกแบบ

เราพักที่นี่หลายคืนที่วิลล่า อาร์ตติส ตื่นเช้ามาอาร์ตติสพลอยก็ไปเรียนรู้เทคนิคกระบวนการผลิตเซรามิกที่โรงงานด้วยค่ะ พอร่ำเรียนหาความรู้เสร็จแล้ว หนุ่มๆมหาภิรมย์ก็มารับจากโรงงานไปเที่ยวเล่น Cafe Hopping ตระเวณร้านกาแฟในเชียงใหม่ ไปกินเต้าหู้อร่อยมากที่โรงแรมศรีประกาศ โรงแรมแห่งแรกของจังหวัดเชียงใหม่ที่กำลังรอการบูรณะ มีร้านจำหน่ายงานหัตถกรรม ของที่ระลึกอยู่ตรงข้ามกับร้าน Tofu ที่เรานั่งรับประทานเมนูเต้าหู้อร่อยจัดกันด้วย

โพสกับหนุ่มๆมหาภิรมย์ซะหน่อย

นอกจากมื้ออร่อยที่โรงแรมศรีประกาศแล้ว หนุ่มๆยังพาทัวร์ร้านกาแฟหลายแห่งในเชียงใหม่ ร้านที่เราชอบที่สุดคือ Graph ค่ะ

กาแฟที่นี่สั่งอะไรมาลองก็อร่อยไปหมด ทุกแก้วจริงๆ แก้วนี้รู้สึกจะเป็น cold brew ที่มีกลิ่นหอมของกุหลาบ ชื่นใจมากมาก

จากนั้นเราก็ไปต่อกันที่ Thunder Bird  Hostel เป็นที่พักน่ารักมาก มีร้านขนมปังและขนมอบแสนอร่อยอยู่ด้วย

 

ตื่นตาตื่นใจกับที่นี่มาก เช่นเดียวกับตรอกซอกซอยแถบถนนมูลเมือง วัดสวยงามเก่าแก่ วัดช้างล้อม วัดเชียงมั่น

เดินเล่นได้เป็นวันๆ ร้านขาย All Day Breakfast ที่มีขนมอบ ขนมปัง ผลไม้ ที่ได้อารมณ์ Grocery Store

     

นี่เป็นจุดน่าเดินเที่ยวส่วนหนึ่งที่ทางทีมวิลล่ามหาภิรมย์เตรียมไว้สำหรับแขกของโรงแรมนะคะ พี่ๆน้องๆทีมงานทุกคนช่างซอกแซกสู่ทุกย่านในหลายชุมชนทั่วเชียงใหม่ คุณณุเป็นศิษย์เก่า ม.ช. เป็นเจ้าถิ่นที่ชำนาญพื้นที่มาก บางเช้าเราจึงเปลี่ยนบรรยากาศไปอร่อยกับร้านขวัญใจชาวเราตั้งแต่สมัย 70s-80s Boat Bakery หน้ามอฯค่ะ ขอบอกว่านอกจากเมนูดั้งเดิมคาวหวาน ขนมเมอร์แรงจ์สลับชั้นครีม ข้าวต้มมัด สำรับเช้า ที่ทุกคนเคยอร่อยสมัยวัยรุ่นแล้ว ขนมปังหน้าหมูอร่อยสุดใจ

การมานั่งทำงานที่เชียงใหม่เที่ยวล่าสุดนี้ จึงมหาภิรมย์สมใจหลากหลายรส ไว้จะมาจดให้อ่านใน Journal ครั้งต่อไป

ขอบคุณตากล้องคนเก่ง Pir ที่ถ่ายภาพสวยงามให้นะคะ ปลาสราญสุขของเราว่ายน้ำเพลินอย่างมหาภิรมย์จริงๆ

 

Home